บทที่ 1 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม เรื่องที่ 3 ความแปรผันทางพันธุกรรม

ลักษณะทางพันธุกรรม หมายถึง ลักษณะองค์ประกอบของยีน (gene) ของสิ่งมีชีวิตที่มีการแสดงออกเป็นลักษณะปรากฏที่แตกต่างกัน และสามารถถ่ายทอดจากรุ่นหนึ่งไปยังรุ่นอื่นๆต่อไปได้ โดยการถ่ายทอดยีน ในการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมจะมีหน่วยควบคุมลักษณะ (genetic unit) ควบคุมสิ่งมีชีวิตให้มีรูปร่าง และลักษณะเป็นไปตามเผ่าพันธุ์ของพ่อแม่ เรียกว่า ยีน (gene) ดังนั้นยีนจึงทาหน้าที่ควบคุมการถ่ายทอดลักษณะต่างๆจากบรรพบุรุษไปสู่รุ่นหลาน ลักษณะต่างๆที่ถ่ายทอดไปนั้นพบว่าบางลักษณะไม่ปรากฏในรุ่นลูก แต่อาจจะปรากฏในรุ่นหลานหรือเหลนก็ได้ จึงมีผลทาให้เกิดความแตกต่างกันของลักษณะทางพันธุกรรมจนมีผลทาให้สิ่งมีชีวิตเกิดความหลากหลาย แต่การสะสมลักษณะทางพันธุกรรมจานวนมากทาให้เกิดสปีชีส์ต่างๆและสามารถดารงเผ่าพันธุ์ไว้ได้จนถึงปัจจุบัน
ในระหว่างการสะสมพันธุกรรมที่ต้องใช้เวลานานนับปี ทาให้ลักษณะทางพันธุกรรมที่สะสมเกิดการแปรผันทางพันธุกรรม สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในสปีชีส์เดียวกัน ย่อมมีลักษณะทางพันธุกรรมที่คล้ายคลึงกันมากกว่าสิ่งมีชีวิตต่างสปีชีส์กัน สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันจะมีลักษณะคล้ายคลึงกันและมีความแตกต่างกันน้อยกว่าสิ่งมีชีวิตต่างชนิดกัน ความแตกต่างอันเนื่องจากมีลักษณะพันธุกรรมแตกต่างกัน เรียกว่า การแปรผันทางพันธุกรรม (genetic variation)
ลักษณะของสิ่งมีชีวิตอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงไปได้โดยปัจจัย 2 ประการ คือ
  1. พันธุกรรม
 2. สิ่งแวดล้อม
การแปรผันลักษณะทางพันธุกรรมสามารถจำแนกได้ 2 ประเภท
          1. การแปรผันลักษณะทางพันธุกรรมที่ต่อเนื่อง
     เป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่ไม่สามารถแยกความแตกต่างได้อย่างชัดเจน มีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย ความแตกต่างของลักษณะจะปรากฏเป็นลำดับต่อเนื่องกัน ทำให้ยากต่อการจัดหมวดหมู่และอัตราส่วนจะแยกอย่างเด็ดขาดได้ยาก มักถูกควบคุมโดยยีนหลายคู่ >แปรผันได้ง่ายเมื่อได้รับอิทธิพลจากสิ่งแวดล้อม สามารถวัดขนาดและปริมาณได้ตัวอย่าง เช่น ในคน สีผิวปกติ / ความสูง / น้ำหนัก / โครงร่าง / ระดับสติปัญญา ฯลฯ ในสัตว์และพืช ขนาดของร่างกาย / ผลผลิต / ปริมาณการให้เนื้อ นม และไข่ ฯลฯ
เป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่ไม่สามารถแยกความแตกต่างได้อย่างเด่นชัด เช่น ความสูง น้าหนัก โครงร่าง สีผิว ซึ่งเกิดจากอิทธิพลของกรรมพันธุ์และสิ่งแวดล้อมร่วมกัน เช่น ความสูง ถ้าได้รับสารอาหารถูกต้องตามหลักโภชนาการและมีการออกกาลังกายก็จะทาให้มีร่างกายสูงได้
2. การแปรผันทางพันธุกรรมแบบไม่ต่อเนื่อง


      เป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่มีความแตกต่างอย่างชัดเจนและจำแนกชนิดของลักษณะที่ปรากฎให้เป็นหมู่ได้ง่าย ถูกควบคุมด้วยยีนน้อยคู่ไม่แปรผันโดยอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมเป็นลักษณะทางคุณภาพ
 ตัวอย่าง เช่น ความสามารถในการห่อลิ้น / การถนัดมือซ้าย มือขวา / จำนวนชั้นของหนังตา / การมีลักยิ้ม / ลักษณะผิวปกติ ผิวเผือก / พันธุกรรมของหมู่เลือด / การมีติ่งหู ไม่มีติ่งหู ฯลฯ
 เป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่สามารถแยกความแตกต่างได้อย่างชัดเจนเกิดจากอิทธิพลของกรรมพันธุ์เพียงอย่างเดียว เช่น มีลักยิ้ม - ไม่มีลักยิ้ม ขวัญเวียนขวา - ขวัญเวียนซ้าย ห่อลิ้นได้ - ห่อลิ้นไม่ได้ มีติ่งหู - ไม่มีติ่งหู กระดูกโคนนิ้วหัวแม่มือกระดกไปมาได้ กระดกไปมาไม่ได้

ที่มา : https://sites.google.com/site/marisa44638/wiwathnakar/kar-paerphan-thang-phanthukrrm

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น